![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjOswZ2sV-SdZhftd2MJUhX6VAm2zX5nwKN2LZySnvJiHx5mPMZratLCm105oL4u27aq8UzN4xAV_Edv4lK6mZ-0BjF6bDXZoNnX0RRXlxSxTQpx3u_XWFay9-8bWVXLWHTsje2slZtVktz78zK2hqcM31MLTqKSKzmA3SsKydyo8_hqqCNLzuQ5Nek0C8/s1600/0gd.png)
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่กำลังถูกพูดถึงอย่างมากในขณะนี้ สำหรับเหตุการณ์ที่ ทางด้าน เช ซาฟียาห์ อับดุลลาห์ วัย 63 ปี ผู้เป็นแม่ของชายรายดังกล่าวเผยว่า ลูกชายของเธอตั้งใจนำเงินสดจำนวน 60,000 ริงกิต (ราว 458,000 บาท) ไปฝากธนาคาร ทว่าก่อนที่จะออกไป เขาได้ทำความสะอาดภายในรถ ซึ่งเป็นรถของพี่สาวที่ยืมมาใช้ จึงนำถุงผ้าที่ใส่ธนบัตรไปใส่ไว้ท้ายรถ ก่อนที่จะลืมหยิบมันออกมา จากนั้นเขาก็ขับรถมุ่งหน้าไปตามถนนสายจาลัน โกตาบารู-กัวลาตรังกานู ในเวลาประมาณ 11.00 น.
กระทั่งเมื่อขับรถไป ฝาท้ายรถที่ปิดไม่สนิท เกิดเปิดขึ้นมาระหว่างทาง ด้วยความเร็วและแรงลมทำให้เงินสดเหล่านั้นปลิวกระจายว่อนไปตามถนน เขาเพิ่งมารู้ว่าเงินหายไปหลังจากที่เข้าไปถึงในเมือง ประมาณ 10 นาทีหลังจากเกิดเหตุ เขาจึงรีบวนรถกลับไป เมื่อไปถึงบริเวณนั้น เขาพบประชาชนบางส่วนช่วยกันเก็บเงินที่ตกกระจายส่งมอบคืนให้เขา รวมแล้วได้เพียงแค่ครึ่งเดียวประมาณ 30,000 ริงกิต (ราว 229,000 บาท) ส่วนที่เหลือเชื่อว่ามีคนเก็บได้แต่ไม่ส่งคืน
ทั้งนี้ ซาฟียาห์ ยังเผยด้วยความสะเทือนใจว่า หลังจากเกิดเหตุลูกชายของเธอก็มีอาการซึมเศร้า เอาแต่ขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง เขารู้สึกเสียใจมากเนื่องจากเงินดังกล่าวเป็นเงินที่เขามานาน 4 ปี จากการทำงานเป็นช่างตัดผม โดยเขาตั้งใจจะใช้สำหรับซื้อรถของตัวเอง อย่างไรก็ตาม เธอได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจในพื้นที่ เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยดำเนินการให้ และหวังว่าใครก็ตามที่นำเงินที่เหลือไป ขอให้ช่วยคืนให้กับครอบครัวของเธอด้วย
ขอบคุณที่มาMYNEWSHUB