‘วิษณุ เครืองาม’ ชี้ ‘ก้าวไกล’ เป็นผู้นำฝ่ายค้านไม่ได้ เหตุเพราะแบบนี้

‘วิษณุ เครืองาม’ ชี้ ‘ก้าวไกล’ เป็นผู้นำฝ่ายค้านไม่ได้ เหตุเพราะแบบนี้

เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านเนื่องจากรัฐธรรมนูญระบุห้ามไม่ให้ ส.ส.ในพรรคการเมืองที่มีสมาชิกเป็นรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรดำรงตำแหน่งดังกล่าว

ว่าแม้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) จะถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ยังไม่ถือว่าพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านจึงยังแต่งตั้งไม่ได้ ตอนนี้ต้องรอให้รู้ก่อนว่าพรรคใดเป็นพรรคร่วมรัฐบาลบ้าง เนื่องจากผู้นำฝ่ายค้านต้องมาจากพรรคที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาล และต้องเป็นพรรคที่ใหญ่

ที่สุดในฝ่ายค้าน เมื่อถามถึงกรณีของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ที่เป็นรองประธานสภา คนที่ 1 ทำให้พรรคก้าวไกลเป็นผู้นำฝ่ายค้านไม่ได้ เนื่องจากแย้งกับรัฐธรรมนูญ นายวิษณุกล่าวว่า ถ้าจะต้องเป็นผู้นำฝ่ายค้านก็ต้องลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภา เมื่อถามว่า หากนายพิธาต้องหลุดจาก ส.ส. พรรคก้าวไกลต้องเปลี่ยนหัวหน้าพรรคใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ใช่ เมื่อถามว่า การที่ยังไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ทำให้หลายฝ่ายกังวลเรื่อง

ปีงบประมาณที่จะล่าช้าออกไป นายวิษณุกล่าวว่า น่ากังวล เพราะปกติในช่วงนี้งบประมาณปี’67 จะเข้าสภา จนกระทั่งจวนจะพิจารณาเสร็จอยู่แล้ว แต่การที่ยังไม่มีรัฐบาลใหม่ ทำให้ไม่มีคนมาทำงบประมาณ และกว่าจะมีรัฐบาลใหม่เข้ามา สมมุติได้รัฐบาลในเดือนกันยายน กว่าจะทำงบประมาณได้ต้องแถลงนโยบายให้เสร็จก่อน

อาจจะอยู่ในช่วงปลายเดือนกันยายน หรือต้นเดือนตุลาคม แล้วต้องใช้เวลาอีก 1 เดือนในการทำงบประมาณ ทำให้งบประมาณ ปี’67 เข้าสภาประมาณเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม แล้วต้องใช้เวลาอยู่ในสภาอีก 3 เดือน จังหวะนั้นจะพอดีกับการทำงบประมาณในปี’68 ทำให้งบประมาณสองปีซ้อนกัน เมื่อถามว่า

มีการประเมินหรือไม่ว่าจะทำให้เกิดความเสียหายมากน้อยเพียงใด นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะไม่ได้ประเมิน ต้องให้ภาคเอกชนเขาประเมินแล้วกัน